อยากให้เป็นเช่นวันวาน คู่หมั้น |
อยากให้เป็น เช่นวันวาน |
อยากให้เป็นเช่นวันวาน ชูกลิ่น อุนวิจิตร
|
|
พอขึ้น ป.2 ฉันเริ่มจำเพื่อน ๆ ได้ ในจำนวนนั้น ชื่อชูกลิ่น อุนวิจิตร (จู) ฉันจะเรียกชูกลิ่นตลอด ชูกลิ่นจะตัวเล็ก ๆ น่ารัก ไม่ค่อยชอบพูด ฉันชอบแบ่งขนมให้ทาน ส่วนชูกลิ่นก็จะให้ฉันลอกการบ้าน เราจะเล่นไต่ไม้ท่อนเดียว มีเสา 3 เสา สูงจากพื้นประมาณ 2 ฟุต เราแข่งกัน สนุกสนาน บางทีก็เล่นกระโดดเชือก ครูประจำชั้นของเราชื่อ คุณครูพิสมัย เพื่อนที่เรียนและเล่นด้วยกันก็ เมธินี) คือ เมธินี ภูรีโรจน์ และเมธินี เพชรสุวรรณ ฉันจำเพื่อน ๆ เหล่านี้ได้ดี แต่ฉันเชื่อว่า พวกเขาคงจำฉันไม่ได้แล้ว เพราะว่า พอขึ้น ป.3 พ่อก็ย้ายไปอำเภอพะเยา ฉันก็ได้เรียน ป. 3 ที่โรงเรียนบ้านในเวียง ปัจจุบันคือ โรงเรียนเทศบาล 1 (พะเยาประชานุกูล) สำหรับสายสัมพันธ์ของฉันในวัยเด็ก ป.2 ที่มีต่อชูกลิ่นยังมีอยู่ในใจเสมอ |
|
เมื่อฉันสอบเข้าวิทยาลัยครูได้สำรองที่ 15 แต่มีคนสละสิทธิ์เพียง 10 คน ฉันไปเรียน โรงเรียนบูรณศักดิ์วิทยา ต่อมาฉันรักโรงเรียนนี้มาก ฉันเข้าเรียนสายวิทยาศาสตร์ อาจารย์ที่มาสอนก็เป็นอาจารย์ฝีมือดีจากโรงเรียนมงฟอร์ต โรงเรียนปริ๊นส์ วิทยาลัยเทคนิค (อาจารย์เตียง อาจารย์วิทยา อาจารย์เทพ ฯลฯ) ทำให้ฉันสอบ ม.ศ. 4 ได้ 71.00 เปอร์เซ็นต์ |
|
จากนั้นก็มาสอบเข้าวิทยาลัยครูเชียงใหม่อีกครั้ง วันที่เข้ามาอยู่หอ 2 วิทยาลัยครูเชียงใหม่ ฉันจัดของเข้าที่เสร็จเรียบร้อย ก็มีรุ่นพี่เดินเข้ามาที่ตู้เสื้อผ้าอยู่ใกล้ ๆตู้ฉัน ความเป็นรุ่นพี่แกก็ทักรุ่นน้องก่อน ฉันก็หันหน้ามาตอบ เอ๊ะ !! นี่หน้าเหมือนชูกลิ่น ก็บังเอิญมีรุ่นพี่อีกคนเรียกชูกลิ่นว่า จู ใช่เลย ฉันรีบถามว่า ชูกลิ่นใช่ไหม จากนั้นความหลังครั้งวัยเรียนพรั่งพรูออกจากปาก สอบถามสารทุกข์สุขดิบมากมาย ส่วนใหญ่ฉันจะถามมากกว่า พอเรียนจบวิทยาลัยครูเชียงใหม่ ชูกลิ่น (รุ่นพี่) จบก่อน แล้วเราก็ไม่ได้เจอกันอีกเลย ส่วนฉันภูมิใจในความทรงจำที่แสนงามสมัยเด็กของฉันได้เสมอ |
|
อยากให้เป็นเช่นวันวาน |
|
รุ่นที่ฉันสอนสมัยนั้น เป็นครู เป็นหมอ เป็นพ่อค้า เป็นนักการเมืองก็มีเช่น ลดาวัลย์ (สมฤทธิ์) วงศ์ศรีวงศ์ กู้เกียรติ ชูศักดิ์สกุลวิบูล และฉันยังได้สอนน้องชายคนสุดท้องของฉันด้วย อายุเราห่างกัน 7 ปี ตอนบรรจุใหม่ น้องชายฉัน เรียนชั้น ม.ศ.2 ฉันได้สอนภาษาไทยห้องนี้ด้วย เขาแยกห้องชายล้วน หญิงล้วน และหญิงชายรวมกัน ห้องชายล้วนการเรียนปานกลางถึงอ่อน นักเรียนอายุอ่อนกว่าฉัน 3 ปีก็มี นักเรียนที่ฉันสอนจะไม่คุยกันตั้งใจเรียนดีมาก อาจจะเป็นเพราะฉันดุ หรือสวยก็ไม่รู้นะ |
|
ผ่านมาจนถึงปลายเทอม 2 ของการบรรจุใหม่ ทุกอย่าง ดูจะดำเนินไปด้วยดี ฉันก็ไม่รู้ว่านักเรียน ม.ศ. 2 ห้องชายล้วน ห้องน้องชายฉันน่ะแหละ เขาคิดอะไรกันอยู่ มีอยู่วันหนึ่งพอฉันให้นักเรียน แบบฝึกหัด ความคิดที่ว่าครูไม่ควรยืนหรือนั่งที่โต๊ะครูอย่างเดียว คิดแล้วเดินไปข้างหลังห้อง ดูนักเรียนทำแบบฝึกหัด (สมัยนี้เรียกว่าครูเอาใจใส่เด็กอย่างใกล้ชิดอ่ะ) พอเดินกลับมาหน้าห้อง ก็มีนักเรียนคนหนึ่งเรียก ครู ครูครับ ฉันหันไปดู แกก็เอามีชี้ที่สะโพกฉันโอ๋ย โดนเข้าแล้ว ก้นฉ้าน เมล็ดอะไรไม่รู้ถูกปาเข้าที่สะโพกตอนเดินออกมาจากหลังห้อง โมโหสุดขีด ถามใครทำ ไม่ตอบใครเห็นใครทำ ไม่ตอบ ไม่สอน วิ่งไปฟ้องครูใหญ่ อาจารย์เอิ้อ มณีรัตน์ ๆ ให้อาจารย์ว่าที่ ร.ต. ชูชาติ สงวนงาม เป็นคนมาสอบสวนก็ให้นักเรียนห้องชายล้วนออกมาเข้าแถวหน้าห้อง ครูใหญ่ให้หมด แล้วค้นตัวทุกคน ค้นกระเป๋ากางเกง กระเป๋าเสื้อ แล้วเขย่ากางเกง กันทุกคน เผื่อเจ้าเมล็ดนั่นหล่น ค้นทุกคนมาถึงน้องชายฉัน ค้นไปค้นมา |
|
อะไรหล่น ทุกคนก็จ้องมอง มันเป็นกระดาษ พับเล็ก ๆ คลี่ออกมาดูขนาดเท่าฝ่ามือ (ไม่ใช่ ห่อหญ้านั่น) แต่เป็นโพยแชร์ปากกา เขียนว่า อนุญาตให้เล่นแชร์ปากกาได้ เบอร์ละ 1 บาท ลงชื่อ เอื้อ มณีรัตน์ ปลอมลายเซ็น แล้วตามด้วยชื่อคนซื้อแชร์ คนซื้อส่วนใหญ่เป็นนักเรียนหญิง (อยากได้ปากกาลูกลื่นใหม่) ดังนั้น ทุกคนที่มีชื่ออยู่ในโพย ถูกเรียกมาเข้าแถว แล้วครูฝ่ายปกครองยืนเรียงกัน 6 คน ตีคนละ 1 ขวับ ครู 6 คน นักเรียนหญิงคนละ 6 ควับ กลิ้งตกท้องร่องน่าสงสารมาก ในชีวิตคงไม่อยากเล่นแชร์อีกต่อไป) 1 ในบรรดาโดนเฆี่ยนจะมีนางสาวลดาวัลย์ สมฤทธิ์ หรือเปล่าก็ไม่รู้ |
|
สำหรับนายอิทธิพล ไชยมงคล ภายหลังฉันเปลี่ยนชื่อให้ใหม่ เป็น นายนาวิน ไชยมงคล ดูเป็นผู้เป็นคนขึ้น ถูกย้ายไปอยู่โรงเรียนอื่น ห้ามเรียนเชียงคำวิทยาคม ก็เลยได้ย้ายไปเรียนโรงเรียนพะเยาพิทยาคม อำเภอพะเยา จังหวัดเชียงราย ส่วนก้นฉันนะหรือ ทุกคนลืมลืมไปหมดแล้ว และอย่างสิ้นเชิง ส่วนฉันยังไม่ลืมมันฝังแน่นอยู่ในใจฉันตลอดเวลา โอ้.... ก้นฉันกับแชร์ปากกา |
|